มันยากเกินไป หรือเรายังไม่วางใจให้เขาทำ
เป็นอีก 1 คำถามนะคะ ที่แม่ดาวแนะนำให้ทุก ๆ ท่านลองหันกลับมาถามคำถามนี้กับตัวเอง แม่ดาวเองก็เป็นคนนึงที่เคยมีความคิดหลาย ๆ เรื่องของลูก ว่า “มันยากไปสำหรับลูก ยังไม่เหมาะสมกับวัยเขา” เช่น การใช้กรรไกรตัดกระดาษแบบที่เราใช้ปกติ ซึ่งเขาก็อยากจะใช้มาก แม่ดาวจะมีกรรไกรสำหรับเด็กไว้ให้เขาใช้ตัดเล่น ก็เป็นกรรไกรจริง ๆ แต่มีขนาดเล็กกว่าที่เราใช้ปกติ เวลาให้ลูกใช้ก็ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของเรานะคะ ไม่ใช่ปล่อยให้ลูกเล่นตัดเองลำพังคนเดียว แต่เราคงไม่ต้องเฝ้าเขาตลอดชีวิตหรอกจริงไหม แค่ตอนเริ่มหัดใช้ เขาจะเริ่มคุ้นชิน ใช้บ่อย ๆ ก็จะเกิดทักษะมากขึ้นและใช้ได้เองในที่สุด
มีเหตุการณ์นึงที่แม่ดาวจำได้ดี ตอนดีโด้ 4 ขวบแหละ ดีโด้เขาจะตัดซองน้ำผลไม้ชง ที่เป็นซอง ๆ ยาว ๆ ตอนแรกเราก็ไม่เห็น หันไปอีกทีเห็นเขาลงจากเก้าอี้หลังจากปีนหยิบกรรไกร หยิบซองน้ำผลไม้ชงเอง (แม่ดาวเก็บไว้ให้สูงพ้นมือเขา แต่ก็ไม่พ้นอยู่ดี ฮ่าๆๆ) ขณะที่เขากำลังใช้สมาธิในการ เตรียมตัวที่จะชงน้ำผลไม้ด้วยตัวเอง แม่ดาวก็พูดขึ้นว่า
แม่ ดีโด้ครับ ลูกอยากชงน้ำผลไม้ทานเองเหรอลูก (ที่ถูกต้องดื่มเนอะ)
ดีโด้ ใช่ครับแม่ ดูซิดีโด้หยิบมาเองหมดเลยนะแม่ (สีหน้าท่าทางภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองทำมาก เตรียมแก้วเอง น้ำเอง ซองผง และกรรไกร วางเรียงอยู่ตรงหน้า)
แม่ อืม.....แล้วกรรไกรอันนี้ สำหรับใครใช้ครับลูก
ดีโด้ ของผู้ใหญ่ใช้.....แต่แม่ ถ้าเด็กไม่ได้เรียนรู้ ฝึกใช้ดูแล้วเด็กจะรู้วิธีการใช้ได้ยังไง มันต้องให้เด็ก ๆ ได้ลองใช้ เด็กจะได้ใช้เป็นไงแม่
แม่ (นิ่งคิดพักนึง) อืม....นั่นซิ ขอบคุณดีโด้นะครับที่ลูกเตือนสติแม่ หากแม่ไม่เปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ลูกก็จะใช้ไม่เป็นสักทีเนอะ งั้นแม่ขอว่าเวลาที่ดีโด้อยากจะใช้กรรไกรนี้ บอกแม่ก่อนนะครับ แม่จะได้รู้ จะเป็นครูช่วยฝึกสอนให้ไงเนอะ
ดีโด้ ดีโด้ใช้เก่งแล้วแม่ เดี๋ยวดูนะดีโด้จะทำให้ดู
ว่าแล้วก็ทำท่าทำทางจะขยับกรรไกร
ว่าแล้วก็ทำท่าทำทางจะขยับกรรไกร
แม่ นั่นซิ...เพราะดีโด้ฝึกจากการใช้กรรไกรเล็กมาแล้ว ก็เลยทำได้ดี แต่ก็ต้องระวังมาก ๆ นะครับ กรรไกรอันนี้มันใหญ่กว่าเยอะ เรายังไม่คุ้นเคยกับมัน งั้นแม่เป็นผู้ช่วย ที่ปรึกษาให้แล้วกันนะ เพราะเด็กมีความสามารถอยู่แล้ว แต่ยังขาดประสบการณ์เนอะ
ดีโด้ยิ้มหน้าบาน เพราะรับรู้ว่าแม่ชม และเขาภูมิใจในตัวเขาเองที่ทำได้ และทำได้ดีมากซะด้วย
บอกตามตรงนะคะ แม่ดาวอึ้ง...ไปเลย ลูกเอาคำพูดที่เราเคยใช้สอนเขากับเรื่องอื่น ๆ ในชีวิตประจำวันมาสอนเรา และเขามาเตือนสติเรา เขาให้ธรรมะแก่เรา “อุเบกขา” (การวางใจเป็นกลาง) แม่ดาวนึกถึงคำ ๆ นี้ในสมองทันที เราคิดเองว่ามันยากเกินไป ยังไม่เหมาะสมกับวัยของเขา เราเอาความคิดเราไปตัดสินจำกัดสิทธิ์ ความสามารถในการเรียนรู้ของเขา
อ่านหนังสือมาก็เยอะ รู้มาก็เยอะ รับรู้เก็บไว้ในสมอง แต่ที่ขาดในบางที คือสติ ปัญญา คนเราบางครั้งก็หลงนะ ไม่โง่นะ ใช้คำว่าหลง คือไม่ใช่ไม่รู้ รู้ทั้งรู้ แต่หลงไง ลืมไป ปัญญาที่จะแยกว่าอะไรควร อะไรไม่ควรนี่ยังไม่ค่อยมี สติมันน้อยในบางที ต้องให้ลูกมาเติมสติให้เต็ม พอสติเต็ม เราจะตื่น เราจะรู้สึกตัว แล้วปัญญาก็จะตามมา
มีอีกหลาย ๆ เรื่องนะคะ ที่แม่ดาวเองก็หลงบ่อย ๆ ต้องพยายามมีสติเสมอ ๆ หลาย ๆ ครั้งก็ลูกเรานี่แหละคือตัวสติ เขาเตือนสติเราบ่อยมาก ไม่ว่าจะจากคำพูด หรือการกระทำ เขาเป็นครูฝึกสอนเราที่ดีมาก เราต้องเรียนรู้จากเขาไปตลอดชีวิต เขาไม่เพียงแต่สอนวิชาเลี้ยงลูกให้เรานะคะ หลาย ๆ ครั้งเขาสอนธรรมะแก่เราอีกด้วย
ต้องขอบคุณน้องดีโด้อาจารย์พ่อของแม่ดาวจริง ๆ