วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

มันยากเกินไป หรือเรายังไม่วางใจให้เขาทำ

            เป็นอีก 1 คำถามนะคะ ที่แม่ดาวแนะนำให้ทุก ๆ ท่านลองหันกลับมาถามคำถามนี้กับตัวเอง  แม่ดาวเองก็เป็นคนนึงที่เคยมีความคิดหลาย ๆ เรื่องของลูก ว่า มันยากไปสำหรับลูก ยังไม่เหมาะสมกับวัยเขา   เช่น  การใช้กรรไกรตัดกระดาษแบบที่เราใช้ปกติ ซึ่งเขาก็อยากจะใช้มาก แม่ดาวจะมีกรรไกรสำหรับเด็กไว้ให้เขาใช้ตัดเล่น ก็เป็นกรรไกรจริง ๆ แต่มีขนาดเล็กกว่าที่เราใช้ปกติ เวลาให้ลูกใช้ก็ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของเรานะคะ ไม่ใช่ปล่อยให้ลูกเล่นตัดเองลำพังคนเดียว แต่เราคงไม่ต้องเฝ้าเขาตลอดชีวิตหรอกจริงไหม  แค่ตอนเริ่มหัดใช้ เขาจะเริ่มคุ้นชิน ใช้บ่อย ๆ ก็จะเกิดทักษะมากขึ้นและใช้ได้เองในที่สุด
            มีเหตุการณ์นึงที่แม่ดาวจำได้ดี ตอนดีโด้ 4 ขวบแหละ  ดีโด้เขาจะตัดซองน้ำผลไม้ชง ที่เป็นซอง ๆ ยาว ๆ  ตอนแรกเราก็ไม่เห็น หันไปอีกทีเห็นเขาลงจากเก้าอี้หลังจากปีนหยิบกรรไกร หยิบซองน้ำผลไม้ชงเอง (แม่ดาวเก็บไว้ให้สูงพ้นมือเขา แต่ก็ไม่พ้นอยู่ดี ฮ่าๆๆ)  ขณะที่เขากำลังใช้สมาธิในการ เตรียมตัวที่จะชงน้ำผลไม้ด้วยตัวเอง  แม่ดาวก็พูดขึ้นว่า 
แม่        ดีโด้ครับ ลูกอยากชงน้ำผลไม้ทานเองเหรอลูก (ที่ถูกต้องดื่มเนอะ)
ดีโด้      ใช่ครับแม่  ดูซิดีโด้หยิบมาเองหมดเลยนะแม่  (สีหน้าท่าทางภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองทำมาก เตรียมแก้วเอง น้ำเอง ซองผง และกรรไกร วางเรียงอยู่ตรงหน้า)
แม่        อืม.....แล้วกรรไกรอันนี้  สำหรับใครใช้ครับลูก
ดีโด้      ของผู้ใหญ่ใช้.....แต่แม่ ถ้าเด็กไม่ได้เรียนรู้ ฝึกใช้ดูแล้วเด็กจะรู้วิธีการใช้ได้ยังไง  มันต้องให้เด็ก ๆ ได้ลองใช้ เด็กจะได้ใช้เป็นไงแม่
แม่        (นิ่งคิดพักนึง) อืม....นั่นซิ ขอบคุณดีโด้นะครับที่ลูกเตือนสติแม่  หากแม่ไม่เปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ลูกก็จะใช้ไม่เป็นสักทีเนอะ  งั้นแม่ขอว่าเวลาที่ดีโด้อยากจะใช้กรรไกรนี้ บอกแม่ก่อนนะครับ แม่จะได้รู้ จะเป็นครูช่วยฝึกสอนให้ไงเนอะ  
ดีโด้      ดีโด้ใช้เก่งแล้วแม่ เดี๋ยวดูนะดีโด้จะทำให้ดู 
     ว่าแล้วก็ทำท่าทำทางจะขยับกรรไกร
แม่        นั่นซิ...เพราะดีโด้ฝึกจากการใช้กรรไกรเล็กมาแล้ว ก็เลยทำได้ดี  แต่ก็ต้องระวังมาก ๆ นะครับ กรรไกรอันนี้มันใหญ่กว่าเยอะ  เรายังไม่คุ้นเคยกับมัน งั้นแม่เป็นผู้ช่วย ที่ปรึกษาให้แล้วกันนะ เพราะเด็กมีความสามารถอยู่แล้ว แต่ยังขาดประสบการณ์เนอะ
         ดีโด้ยิ้มหน้าบาน เพราะรับรู้ว่าแม่ชม และเขาภูมิใจในตัวเขาเองที่ทำได้ และทำได้ดีมากซะด้วย   
            บอกตามตรงนะคะ แม่ดาวอึ้ง...ไปเลย ลูกเอาคำพูดที่เราเคยใช้สอนเขากับเรื่องอื่น ๆ ในชีวิตประจำวันมาสอนเรา และเขามาเตือนสติเรา เขาให้ธรรมะแก่เรา  อุเบกขา (การวางใจเป็นกลาง) แม่ดาวนึกถึงคำ ๆ นี้ในสมองทันที   เราคิดเองว่ามันยากเกินไป  ยังไม่เหมาะสมกับวัยของเขา เราเอาความคิดเราไปตัดสินจำกัดสิทธิ์ ความสามารถในการเรียนรู้ของเขา  
อ่านหนังสือมาก็เยอะ  รู้มาก็เยอะ รับรู้เก็บไว้ในสมอง แต่ที่ขาดในบางที คือสติ ปัญญา  คนเราบางครั้งก็หลงนะ ไม่โง่นะ ใช้คำว่าหลง คือไม่ใช่ไม่รู้  รู้ทั้งรู้ แต่หลงไง ลืมไป ปัญญาที่จะแยกว่าอะไรควร อะไรไม่ควรนี่ยังไม่ค่อยมี สติมันน้อยในบางที ต้องให้ลูกมาเติมสติให้เต็ม   พอสติเต็ม  เราจะตื่น เราจะรู้สึกตัว แล้วปัญญาก็จะตามมา  
มีอีกหลาย ๆ เรื่องนะคะ ที่แม่ดาวเองก็หลงบ่อย ๆ  ต้องพยายามมีสติเสมอ ๆ หลาย ๆ ครั้งก็ลูกเรานี่แหละคือตัวสติ  เขาเตือนสติเราบ่อยมาก  ไม่ว่าจะจากคำพูด หรือการกระทำ  เขาเป็นครูฝึกสอนเราที่ดีมาก เราต้องเรียนรู้จากเขาไปตลอดชีวิต เขาไม่เพียงแต่สอนวิชาเลี้ยงลูกให้เรานะคะ หลาย ๆ ครั้งเขาสอนธรรมะแก่เราอีกด้วย
ต้องขอบคุณน้องดีโด้อาจารย์พ่อของแม่ดาวจริง ๆ