เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่นานเท่าไหร่ คือแม่ดาวหากวันไหนอารมณ์พระธรรมกำเริบ ก็จะพูดคุยประเด็นหัวข้อเกี่ยวกับธรรมะกับลูกชายตัวน้อยวัย 5 ขวบ คุยกันไปเรื่อย ๆ ไม่ได้น่าเบื่อนะคะ สอนแบบสนุก ๆ เล่าเรื่องเป็นนิทานจากที่เราเองได้ฟังมาอีกต่อจากคลิปต่าง ๆ หรืออ่านหนังสือเจอ ก็จะจำนำมาเล่าต่อ ดีโด้เขาจะเรียก “นิทานเสริม” ก่อนนอน คือจะมีนิทานหลักเป็นนิทานจากสมุดภาพ นิทานจากหนังสือ ส่วนพวกเรื่องเล่าเร้าสติต่าง ๆ จะเป็นนิทานเสริม หรืออีกชื่อที่ลูกเรียกคือ “นิทานจากปาก” เขาก็ฟังมาเรื่อย ๆแหละ
วันนึงไม่รู้ด้วยสาเหตุอะไรดลใจ อยู่ ๆ เขาก็พูดว่า
ดีโด้ แม่....ดีโด้ไม่เชื่อหรอกว่าพระพุทธเจ้ามีอยู่จริง
ประมาณว่า อย่ามาหลอกสอน ให้เชื่อ ให้ทำตามเสียให้ยากเลย ไม่มีตัวตนให้เห็นจริง ๆ “ฉันไม่เชื่อ” แม่ดาวฟังแล้วยิ้ม ตอบกลับอย่างใจเย็นว่า
แม่ ถูกต้องครับลูก เนี้ยถูกต้องเลยนะ พระพุทธเจ้าท่านสอนให้คนอย่าเชื่อ หากเพียงแค่ฟังคนอื่นพูดมา อย่าเชื่อเพราะคน ๆ นั้นเป็นคนที่เรารักหรือเคารพ แต่ให้เชื่อจากการพิสูจน์ด้วยตัวเราเอง เชื่อความจริง ดีโด้คิดแบบนี้ก็ถูกต้องแล้วครับ
ดีโด้จากฝ่ายค้านแม่ อยู่ ๆ ก็มีทีท่าไม่ต่อต้าน กลายมาเป็นพวกเดียวกันเหมือนเดิม
ดีโด้ แล้วแม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าหรือยัง
แม่ ก็เหมือนจะเห็นนะ มันลางๆๆ ยังไม่เห็นพระพุทธองค์ชัด ภาพยังไม่ชัดลูก แม่ก็แค่รู้สึกคล้าย ๆ ว่าจะเห็น แต่ก็ยังแค่คล้าย ๆ ไม่แน่ใจชัดเจนเหมือนกัน ว่าเห็นหรือยัง
ดีโด้ พระพุทธเจ้าบอกว่า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา” จริงไหมแม่
แม่ ถามว่า แม่ก็ว่าจริง นะ แม่เชื่อว่าอย่างนั้นครับ ลูกล่ะ
ดีโด้ (เหมือนจะนิ่งคิด) ดีโด้ก็เชื่อเหมือนแม่นะ
แม่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่แม่พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วเห็นว่าจริง เห็นชัดด้วย คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า หลักธรรมะ ต่าง ๆ ที่แม่ได้ลองทำ พิสูจน์ด้วยตัวแม่เองแล้วเห็นชัดว่า มันจริง ที่สุด เป็นความจริงที่ไม่มีใครเถียงได้เลย
ดีโด้ อะไรล่ะแม่
แม่ ก็เหมือนที่แม่สอนบ่อย ๆ ไง ค นเรามีเกิด ก็ต้องมีแก่ ต้องมีเจ็บป่วย แล้วสุดท้ายที่เหมือนกันคือ ความตาย ไม่ว่าใครก็ต้องเจอเหมือนกัน แต่บางคนอาจไม่แก่นะ เกิดมาเป็นเด็กแล้วตายก็มี ไม่มีใครบอกได้ว่าจะตายตอนไหน เมื่อไหร่ แล้วเจ็บป่วยเนี้ย แม่คิดว่าต้องเป็นกันทุกคนนะ ดีโด้ล่ะเคยเจ็บป่วยไหม
ดีโด้ เคย
แม่ นั่นซิ แม่ก็เคยเหมือนกัน ป๊าก็เคย ยายก็ด้วย ใคร ๆ ก็เคยเนอะ มันเป็นสัจจธรรม คือความจริง
แม่ แล้วดีโด้จะเชื่อไหม หากใครมาบอกดีโด้ว่า เขาเป็นมนุษย์อมตะ ไม่มีวันตาย
ดีโด้ ไม่เชื่อ....นั่นมันต้องหุ่นยนต์แล้ว (เสียงสูง ขำๆ) ไม่มีวันตาย
แม่ แม้แต่หุ่นยนต์ก็ยังพัง เสีย ได้ จริงไหมลูก
ดีโด้ จริง หุ่นยนต์ดีโด้นะ พังขาหลุด แขนหลุด เรื่อยเลย
แม่ นั่นซิ เล่นไปนาน ๆ เสีย แล้วซ่อม ๆ ไปบ่อย ๆ สุดท้ายเป็นไงลูก
ดีโด้ พัง (ขำๆด้วย) ซื้อใหม่
แม่ เห็นไหม มันเป็นสัจจธรรม
ฮ่าๆ ๆ อ้าว......สุดท้ายจบงงนะนี่ ตกลงน้องดีโด้เขาเชื่อ หรือ ไม่เชื่อเนี้ย ว่าพระพุทธเจ้ามีอยู่จริง แม่ดาวไม่คาดคั้นคำตอบหรอก ความเชื่อมันเชื่อกันที่ใจ ไม่ใช่ที่ปาก (คำพูด) แม่ดาวเชื่อนะคะว่า น้องดีโด้เขาค่อนข้างจะเชื่อแหละ แต่ติดกับความคิดอะไรหลาย ๆ อย่าง เกิดอาการต่อต้านกับบางสิ่ง เลยพูดออกมาแบบนี้ อย่างนี้ต้องเรียกว่ามาถูกทางแล้ว เพราะแม่ดาวคิดว่าเขาเริ่มมี “หิริโอตัปปะ” คือคิดว่าเขาคงอยากจะทำอะไรไม่ดีสักอย่าง คงคิด ๆ ไว้ในใจ ประมาณนึงแล้วก็กลัวจะบาป จะตกนรก กลัวผลของการกระทำนั้น ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า เลยพูดออกมาว่า ไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีอยู่จริง
คำศัพท์ยาก ๆ พวกสัจธรรม นิพพาน วัฎจักร ฯลฯ พวกเนี้ย แม่ดาวสอนไปอย่างนั้น ไม่ได้หวังว่า ณ ตอนนี้เขาจะจำได้ เข้าใจได้เลย แต่ค่อย ๆ ปูพื้นไปเรื่อยๆ วันนี้อาจจำไม่ได้เลย หรือก็ยังคำศัพท์ได้ แต่ไม่ค่อยเข้าใจความหมายนัก หรืออาจจะพอเข้าใจนิดหน่อย อะไรก็แล้วแต่ สอนไปเถอะค่ะ ไม่ยากเกินสมองเด็กที่จะรับรู้หรอก อย่าคิดว่าคำศัพท์มันยาก ยังไม่เหมาะกับวัย แม่ดาวเคยโดนดุจากผู้ใหญ่บางท่านในเรื่องนี้ แต่แม่ดาวมองต่างนี่ค่ะ ไม่เถียงท่าน แต่ไม่ทำตาม อิอิ ดื้อเงียบเนอะ คิดว่าดีก็ทำ และเราไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใครนี่นาจริงไหมค่ะ
ใครอ่านแล้วไม่เห็นด้วยกับวิธีการสอนแม่ดาว ส่งความคิดเห็นมาเลยนะคะ แม่ดาวจะน้อมรับและนำมาพิจารณาเพื่อพัฒนาการสอนลูกต่อไปค่ะ