การใช้เวทมนต์วิเศษ...เสกลูกน้อย

       เวทมนต์วิเศษ...ที่แม่ดาวว่าก็คือ วิธีการต่าง ๆ ที่ช่วยให้เราจัดการเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของลูก ให้กลายเป็นพฤติกรรมที่เราต้องการได้อย่างไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายนัก หรือก็แค่อาจเปลี่ยนอารมณ์ลูกให้พร้อมที่จะรับฟังการสื่อสารของเราที่พยามจะถ่ายทอดให้เขาให้รับรู้ ส่วนจะเข้าใจไหมก็อีกเรื่องนะคะ หรือก็เพื่อกระตุ้นให้ลูกอยากที่จะพูดสื่อสารความในใจของเขาออกมาให้เรารับรู้ หรืออาจเป็นวิธีที่ช่วยกระตุ้น สนับสนุน ความคิดและพฤติกรรมของลูกที่เราอยากจะก่อให้เกิดต่อ ๆ ไป

เคล็ด(ไม่)ลับของการใช้เวทมนต์เหล่านี้ให้ศักดิ์สิทธิ์  คือ

1.      ต้องดูก่อนว่าลูกเราอายุเท่าไหร่ เหมาะกับวิธีการไหนยังไง บางอย่างพูดเหมือนกันแต่คนละวัย หากเลือกใช้ไม่เป็น ก็พังได้เหมือนกันนะคะ

2.      ประเมินสถานการณ์ก่อนว่า ตัวเราเราควรอยู่ในสถานะไหน ผู้ฟัง หรือผู้พูด (ร่ายมนต์) ข้อนี้สำคัญมาก หากเราเลือกสถานะผิด เวทมนต์อาจเสื่อมไม่สัมฤทธิ์ผล    

3.      ทุกครั้งที่เราจะร่ายเวทมนต์(พูด) อารมณ์เราต้องพร้อม "มีกำลังสติมากพอ"  ไม่ใช่พร้อมจะลุยให้เละนะคะ ถามใจตัวเองก่อนว่าเราพร้อมที่จะพูดกับลูกโดยใช้เหตุผลที่เปี่ยมล้นไปด้วยบรรยากาศอบอวนกลิ่นไอรัก  หรืออยากจะสั่งสอนให้ลูกสำนึกผิดโดยมีบรรยากาศแบบร้อนระอุไปด้วยไอร้อน หากท่านมีไอร้อน ก็รอให้เย็นก่อนแล้วค่อยใช้นะคะ เดี๋ยวมนต์เสื่อม  อันที่จริงอารมณ์ของเราก็เกี่ยวข้องกับสภาพร่างกายด้วย คือร่างกายแข็งแรง ปกดีไม่เจ็บป่วย เพราะมันส่งผลต่ออารมณ์ ความคิด การกระทำของเราอย่างมาก เอาเป็นว่าสรุปว่า “กายพร้อม...ใจพร้อม”

4.      ทุกครั้งที่เราร่ายมนต์อยู่ ต้องใช้สายตาส่งผ่านความรักและความห่วงใยด้วยเสมอ ที่สำคัญเราต้องจริงใจและถ่ายทอดออกมาให้ลูกรับรู้ได้ โดยให้คุณลดตัวลง  จะนั่งก็ได้ หรือจะทำยังไงก็ได้ให้สายตาเราและสายตาลูกอยู่ในระดับเดียวกัน ก็ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจนี่เนอะ

5.      การรับฟัง การที่เราอยู่ในฐานะของการเป็นผู้ฟัง เราต้องเป็นผู้ฟังที่ดี คือ  ตั้งใจฟังมองตาลูกด้วยความรักและห่วงใยทำให้เขารับรู้ให้ได้ว่า เรากำลังตั้งใจฟังอยู่ ไม่ใช่ฟังด้วยทำอย่างอื่นไปด้วย หากจะเป็นผู้ฟังที่ดีเราต้องฟังอย่างเดียว ฟังอย่างที่เปิดใจอย่าด่วนตัดสิน พิพากษา อย่าด่วนออกความคิดเห็น ฟังๆๆๆ ฟังให้เยอะก่อน อย่าเพิ่งคิด ฟังลูกพูดให้จบ ฟังลูกด้วยหูและรับรู้ให้ถึงใจ หากอยากคิดอะไร ให้คิดตอนที่มีสติและปัญญามากพอ และฟังแล้วต้องสะท้อนความคิด ความรู้สึกของลูกกลับไปให้ลูกได้รู้ด้วยว่าเรายังตั้งใจฟังอยู่ 
       
6.      ขณะร่ายมนต์ หรือเมื่อร่ายมนต์จบเราควรใช้ภาษากายส่งผ่านความรัก ความห่วงใย และความปรารถนาดีไปถึงเขา เช่น การกอด การหอม จับมือเบา ๆ  แต่สำหรับน้องดีโด้หากลูบหัวเบา ๆ เนี้ยมีเคือง เขาบอกว่า"แม่นี่มันลูกคนนะ ไม่ใช่ลูกหมา" ฮ่าๆๆ  และอย่าลืมคำพูดบอกเน้นให้รู้ว่าเราเข้าใจ และรักเขามากแค่ไหน

           ถ้าพร้อมกันแล้วไปเริ่มเรียนรู้กับเวทมนต์วิเศษกันเลยนะคะ