วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555

คุณคือจิตแพทย์คนแรกของลูก (1)


      อารมณ์ต่อเนื่องจากบทความที่แล้ว “ความลับ...ที่คับใจ”  จากเหตุการณ์วันนั้น แม่ดาวเลยมองเห็นอย่างจริงจังว่า เรานี่แหละ ควรเป็นจิตแพทย์คนแรกของลูก   อย่างที่แม่ดาวเคยบรรยายใน facebook เรื่องที่ว่า ปัจจุบันคนไทยต้องไปพบจิตแพทย์กันมากมายจนน่าตกใจ  1 ใน 5 คนที่อยู่รอบตัวท่านอาจเป็น “โรคจิต” น่ากลัวนะคะ  ข้อมูลนี้เป็นข่าวที่ฟังจากรายการสถานีวิทยุแห่งหนึ่งเมื่อประมาณ 2 -3 เดือนก่อนได้ ถ้าจำไม่ผิด ขอย้อนเรื่องกลับไปอีกนิดเพื่อสะกิดใจสำหรับใครอาจไม่เคยอ่าน

        และครั้งหนึ่งเมื่อประมาณปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แม่ดาวมีโอกาสได้ไปแผนกผู้ป่วยจิตเวช ณ โรงพยาบาลดังแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯนี่แหละค่ะ เป็นโรงพยาบาลสังกัดรัฐบาล  แม่ดาวตกใจ และงง มาก ทำไมเด็ก ๆ ถึงต้องมาพบจิตแพทย์กันเยอะมากมายจนเต็มพื้นที่  เป็นแผนกที่มีผู้ป่วยเยอะมาก อย่างไม่น่าเชื่อ คือในความรู้สึกตัวเองคิดเองว่า ไม่น่าจะคนเยอะ  มีตั้งแต่เด็กปฐมวัยไปจนวัยชรา ทุกคนรอคิวตรวจหมด  โดยเฉพาะที่เห็นวัยเด็ก เยอะมากหรือเพราะวันนั้นเป็นคิวของจิตแพทย์รักษาเด็กไม่แน่ใจ  

        แม่ดาวไม่แน่ใจว่าเคยเล่าเรื่องที่ตัวเองก็เคยป่วยเป็น “โรคจิต” เช่นกัน แรก ๆ ไม่รู้ตัวคิดว่าทำไปด้วยอาการปกติของผู้หญิง บ้าซื้อของมาก โดยเฉพาะเครื่องสำอางค์ เดือน ๆ นึงต้องได้ซื้อตลอด ๆ  ซื้อจนสามีเริ่มเคือง และออกมาตรการห้ามซื้ออีก  แต่ก็ไม่เป็นผล ฮ่าๆๆๆๆ  มามีสติและเกิดปัญญาคิดเองได้ ว่าไอ้อาการที่เราเป็นเนี้ย “โรคจิต” ชอบพูดเล่น ๆ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นจริง ๆ  และปัจจุบันหลังจากปฏิบัติธรรมะแล้วก็อาการดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ซื้อเพิ่มแถมแจกกระจายอีกต่างหาก  เก็บไว้เท่าที่เราน่าจะได้ใช้จริง ๆ  ได้ไปลองทดสอบอารมณ์ตัวเองดูแล้วที่ห้างสรรพสินค้า ที่แผนกเครื่องสำอางค์ปรากฎว่า เราสามารถเดินผ่านไปได้แบบไม่ใจสั่นฮ่าๆๆๆ เมื่อก่อนจะต้องคอยจิกตัวเอง ใจสั่นอยากเข้าไปดู สามีเผลอเนี้ยชะแวบไปทันที  มีความสามารถในการซื้อว่องไวและซ่อนของเก่งมาก สามีจับไม่ค่อยได้เท่าไหร่ 

        นอกเรื่องไปเยอะเข้าเรื่องดีกว่าค่ะ  เราคงแต่เคยได้ยิน ได้อ่านกันมาว่า  พ่อแม่ คือ ครูคนแรกของลูก  แต่แม่ดาวอยากเสนอเพิ่มเป็น คุณควรเพื่อนคนแรกของลูก คุณควรเป็นพระพรหมองค์แรกของลูก คุณควรเป็นพระอรหันต์องค์แรกที่ลูกรู้จักและได้สัมผัสจริง ๆ  และสุดท้ายคือ คุณควรจะเป็นจิตแพทย์คนแรกของลูกคุณด้วย หากคุณทำได้จะดีมากเลยนะคะ ลองคิดดูนะคะ ว่ามีประโยชน์คุ้มสุดคุ้มเลยทีเดียว คุณไม่ต้องเดินทางพาลูกไปพบจิตแพทย์ที่ไหน ไม่ต้องเสียเวลาในการนั่งอธิบายเรื่องราวของลูกของเราให้ใครฟัง  ไม่มีค่าใช้จ่ายในการรักษา ไม่ต้องใช้ยาในการรักษา และที่สำคัญจะมีใครรู้ใจและเข้าใจลูกของเราเท่าตัวเราเอง  หากเลี้ยงลูกเองข้อนี้ไม่น่ามีปัญหาเนอะ 

        คุณสมบัติของจิตแพทย์ (แบบพ่อแม่) ในความคิดแม่ดาวคือ
1.ต้องสามารถฟังได้อย่างลึกซึ้ง  ฟังแบบที่ลูกพูดแล้ว ลูกรับรู้ได้ว่าเรา ตั้งใจฟังเสียงของเขาจริง ๆ (เคยมีอธิบายไว้แล้วนะคะ)
2.ต้องมีความรู้ในด้านจิตวิทยาด้วยนะคะ เอาแบบที่พ่อแม่อย่างเรา ๆ ควรจะรู้ไม่ต้องลึกซึ้งขนาดต้องไปเรียน  ปัจจุบันมีหนังสือแนว ๆ นี้ ออกมามากมายล้นตลาด อ่านแล้วเข้าใจได้ไม่ยาก และสามารถทำตามได้เลย แม่ดาวก็ใช้แบบนี้แหละ  (แม่ดาวเคยแนะนำหนังสือบางเล่มไว้แล้วนะคะ)
3. ต้องมีอารมณ์ปกติ มีจิตใจปกติ สภาพร่างกายปกติ  และมีกำลังสติมากพอที่พูดกับลูก 
4. ต้องมีปัญญาเนี้ยก็เกิดจากการอ่านหนังสือ การศึกษาหาข้อมูลอื่น ๆ และการที่เรารู้จักนิสัยใจคอของลูกเรา แล้วนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น