วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สงครามเด็ก ๆ ตอน สงครามบนรถ

        เรื่องนี้เป็นปัญหาของคุณพ่อท่านนึง ที่เขาประสบปัญหานี้บ่อย ๆ และเก็บเอาคำถามนั้นมาถามในกิจกรรมครั้งนึงที่แม่ดาวก็ไปเข้าร่วมด้วย  และเป็นปัญหาที่ญาติของแม่ดาวท่านนึงก็ประสบปัญหานี้บ่อย ๆ เช่นกัน  ญาติของแม่ดาวท่านนี้มีลูกสาว 3 คน อายุประมาณ 9 ขวบ  5 ขวบ และ 3 ขวบตามลำดับ  ตัวแม่ดาวเองถึงมีลูก 1 คน ก็เคยประสบปัญหาคล้าย ๆ กัน คือ สงครามพ่อลูกบนรถ หรือบางทีก็เป็นสงครามแม่ลูกบ้างแต่อันนี้จะน้อยมาก หากสภาพร่างกายปกติดี จิตใจอยู่ในระดับไม่เลวร้ายเหตุการณ์พวกนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหา จัดการได้ โดยละม่อม อิอิ

        ถามว่าเด็ก ๆ ทำไมถึงชอบทะเลาะกันจริง ๆ เวลาอยู่บนรถโดยเฉพาะเวลาที่เราเป็นคนขับรถและกำลังขับรถอยู่บนถนน  แม่ดาวมองว่าเด็กเขาฉลาดนะคะ  เรารู้ว่าเราไม่สามารถเข้าไปจัดการปัญหานี้ได้ เพราะเราต้องเอาสมาธิไปจดจ่ออยู่บนท้องถนน ความสามารถในการคิดจัดการแก้ไขปัญหาจะมีต่ำกว่าปกติฮ่าๆๆ  เด็กเขารู้จุดอ่อนตรงนี้ เลยปล่อยหมัดน็อคเราบ่อย ๆ บ่อยรถ  มีใครในที่นี้เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้  แล้วปรี๊ดแตกบ้างแล้วไหมน้อ   คิดว่าน่าจะมีหลายคนนะแม่ดาวว่า  

        แม่ดาวเอาคำถามนี้ไปถามกับคุณแม่ลูก 3 ดังกล่าวข้างต้น คุณแม่ท่านนี้จัดการโดย  หากสามารถจอดรถได้ ณ ตอนนั้น เขาจะจอดรถทันที และหันไปดุลูกหลังเบาะ อาจจะเป็นการพูดด้วยเหตุผล หรือขู่ก็ตาม  เขาบอกว่าลูก ๆ เขาจะหยุดทันที   แม่ดาวเห็นด้วยกับวิธีนี้ตรงที่ หากสามารถจอดรถได้  ก็ให้เราจอดรถก่อน เพื่อจะได้มีสมาธิ มีสติและปัญญามากพอที่จะจัดการขั้นต่อไปได้  

        แต่หากเป็นแม่ดาว จะไม่ใช้เสียงดังกลบลูก (ตวาดแผดเสียง)  ไม่ขู่เพื่อให้ลูกกลัว แต่พูดจริง ๆ และทำจริง ๆ เช่น หากแม่ดาวเป็นคุณแม่ลูก 3  ดังกล่าวแม่ดาวหากจอดรถได้ แม่ดาวจะ
แม่    “แม่ไม่สามารถขับรถต่อไปได้นะคะ  หากลูก ๆ ยังทะเลาะกันแบบนี้ แม่รู้สึกเครียดมากกับปัญหาของลูกที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ แม่มีมีสามาธิมากพอที่จะขับรถต่อได้อย่างปลอดภัย  มีใครพอจะเสนอวิธีการจัดการแก้ไขปัญหานี้ได้ไหมค่ะ เพื่อเราจะได้เดินทางต่อไปต่อได้ อย่างไม่เครียด”
ลองรับฟังข้อเสนอของลูก ๆ  แม่ดาวว่าเด็ก ๆ เขาก็จะมีวิธีการตกลงกันได้ไม่ยาก หากที่ ๆ เขากำลังจะไปจูงใจให้เขาอยากจะเดินทางไปให้ถึงมากพอ อิอิ  

        หากเราไม่สามารถจอดรถได้หล่ะ จะทำยังไง  แม่ดาวมองว่า อันดับแรก เราต้องควบคุมสติตัวเองให้ได้ นึกถึงความปลอดภัยของชีวิตลูก ๆ และเราเข้าไว้ ขับรถต่อไป  แต่ควรพูดอะไรสักอย่างเพื่อบอกกับลูก ๆ ของเรา ว่าเรารู้สึกยังไง  เช่น “แม่คิดว่าแม่ไม่สามารถขับรถได้อย่างปลอดภัย  เพราะแม่รู้สึกเครียดมากที่ลูก ๆ กำลังทะเลาะกันเสียงดังแบบนี้” พูดด้วยเสียงแบบจริงจังเลยค่ะ เอาแบบออกมาจากใจ แต่ไม่ตวาดได้ไหมค่ะ  เอาแบบเสียงดุ ๆ นิด ๆ ก็มันเครียดนี่เนอะ  ใช้ร่วมกับสายตาพิฆาตส่งผ่านกระจกมองหลังรถไปด้วย  คิดว่าเขาน่าจะสงบได้บ้างหล่ะ   แม่ดาวก็ใช้บ้างนะ เสียงเข้ม ตาดุเนี้ย บางทีก็ต้องงัดไม้นี้มาใช้กันบ้าง ลูกแม่ดาว เป็นประเภท ต้องหลากหลาย อะไรซ้ำ ๆ เดิม ๆ จะดื้อยา ต้องเปลี่ยนตัวกระตุ้นกันบ้างฮ่าๆๆ

        หากทางที่ดี แม่ดาวว่ากันไว้ก่อนดีกว่าเนอะ  มีการพูดคุยกันก่อนจะเดินทางเลยว่า  หากลูก ๆ เกิดทะเลาะกันหลังเบาะขณะที่แม่ขับ แม่จะขับรถกลับบ้านทันที ที่ตกลงกันไว้เป็นโมฆะล้มเลิก ไม่ไปแล้ว อันนี้ไม่ได้ขู่นะคะ เราต้องทำได้จริง ๆ ต้องเด็ดขาด คำไหนคำนั้น  แม่ดาวเคยอ่าน มีคนที่ทำแบบนี้ แล้วได้ผลดีมาก ลูก ๆ เลิกทะเลาะกันบนรถเลย   แต่หากเป็นเรื่องที่ยกเลิกไม่ได้  และลูก ๆ ของเราก็ไม่ได้อยากจะไปสักเท่าไหร่  คงต้องมีการตกลงกันอีกแบบ เช่น ในการเดินทางไป หากลูก ๆ ทะเลาะกันอีก แม่จะงด..........................เป็นเวลาคนละ ........   อันนี้ก็เช่นกันค่ะ พูดจริงและต้องทำได้จริง ๆ ก่อนจะพูดคิดดี ๆ ก่อน ควรเป็นเรื่องที่ทั้งเราและลูกรับได้ 

        อย่างน้องดีโด้เนี้ย หากงดนิทานก่อนนอนเนี้ย เรื่องใหญ่มาก แต่เขาก็รับได้ ถึงจะโอดครวญบ้างก็เถอะ  แต่เราจะบอกเขาทุกครั้งว่า พรุ่งนี้นะคะ แม่จะเล่านิทานให้สนุกซะใจไปเลย  คืนนี้ต้องงดตามข้อตกลงนะคะ  ห้ามซ้ำเติมลูกเด็ดขาดเช่น  ที่นี้จะเข็ดหรือยัง ดีจะได้รู้สำนึกซะบ้าง ทีหลังจะได้ไม่ทำแบบนี้อีก  แบบนี้ไม่เอาไม่พูดนะคะ  แม่ดาวขอร้อง การพูดแบบนี้จะทำให้สิ่งที่เราทำไปลดประสิทธิภาพลงมาก  แถมเป็นการไปก่อไฟในใจให้ลูกโกรธเราเพิ่มอีกนะคะ  

        แม่ดาวจะบอกกับตัวเองเสมอ ๆ ว่า เราต้องพยายามรักษาสัมพันธ์ภาพที่ดีของเรากับลูกเอาไว้  อย่าไปทำลาย หรือลดความสัมพันธ์แบบไม่ทันคิดนะคะ  คิดเยอะ ๆ ก่อนจะพูดเนอะ   คิดดี พูดดี ทำดี  ลูกเราก็จะดีด้วยนะคะ จริงไหม

       และที่สำคัญคือ เวลาที่ลูก ๆ เราไม่ทะเลาะกัน เราต้องชมลูก ๆ ของเราด้วยนะคะ ไม่ใช่เห็นว่าไม่ทะเลาะกันก็ดี ปล่อยผ่านไป  ชมเพื่อกระตุ้นให้เราทำอีกไงค่ะ อย่าลืม ต้องชมด้วยนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น