วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา ยังไงซะ แม่จัดให้

        เรื่องนี้เป็นการใช้คำพูดที่แม่ดาวใช้ เวลาที่ลูกร้องโวยวายอยากได้ของเล่นใหม่  แต่แม่ดาวไม่ซื้อให้ เพราะยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม   เคยเป็นไหมค่ะ เวลาปฏิเสธลูกบ่อย ๆ กับเรื่องเดิม ๆ ด้วยนะ แล้วลูกจะโวยวายต่อต้านอาละวาดหนัก ถึงจะพูดดีขนาดไหน เกลี่ยกล่อมยังไงก็ไม่ยอมยุติสักที สงครามเริ่มยืดเยื้อ แม่ดาวก็เคยเจอค่ะ  ช่วงนั้นงัดกลยุทธ์มากมายก็ดูจะไม่ได้ผล  จนกลับมานั่งทบทวนกับครั้งหน้า หากเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกเอาไงดีน้า

        ปิ๊ง....คิดออก เคยอ่านหนังสือมาผ่าน ๆ ตามากับกลยุทธ์นี้ ลองใช้ดูและได้ผลแฮะ  ผ่านไปนานมากแล้วที่ไม่ได้ใช้ เมื่ออาทิตย์ก่อนโน้นที่แม่ดาวกลับกาญจนบุรี  น้องดีโด้เวลาอยู่กับยายจะเป็นเด็กที่ว่าไม่นอน สอนก็ยาก ฮ่าๆๆ อาการดื้อกำเริบ  เนื่องจากรู้ว่ายังไงซะแม่ก็ต้องฟังยาย  ยายใหญ่กว่าแม่ว่างั้น เด็กเขาฉลาดค่ะ เรียนรู้ว่าอยู่ที่ไหนกับใครต้องทำตัวแบบไหน ยายใจดีมาก ตามใจหลาน หลานทานข้าวก็ป้อนให้ สั่งแม่ แม่ดื้อ ไม่ป้อนข้าวหลานยายป้อนเองก็ได้  อันนี้เป็นปัจจัยที่อยู่เหนือการควบคุมของแม่ดาวนะคะ ฮ่าๆๆ ต้องเคารพท่าน เคยพูดคุยชักชวนโน้มน้าวหลายทีก็เห็นผลอยู่บ้าง แต่ก็ยังติดจะเอาใจหลานชายสุดที่รัก เมื่อก่อนแรก ๆ แม่ดาวโดนยายดุบ่อย ๆ ต่อหน้าลูก เรื่องการเลี้ยงลูกนี่แหละ เราเลี้ยงแบบนี้ คุณยายน้องดีโด้เขาก็มองว่าเราเข้มงวดไป  แต่คนภายนอกมองว่าแม่ดาวเนี้ยสุดแสนจะตามใจลูกเลยนะ  เห็นไหมค่ะ ทำแบบเดียวกัน แต่มุมมองที่คนมองก็ต่างกันราวฟ้ากับเหว  เอาเป็นว่าเราต้องมีหลักในการปฏิบัติของเราไม่ต้องไปบังคับใครเขาให้มาเข้าใจ เหนื่อยใจเปล่า ๆ เนอะ

        เข้าเรื่องดีกว่า  ไปโลตัสที่กาญจนบุรี  ดีโด้ผ่านไปเห็นของเล่นคือ หุ่นยนต์ ฮีโร่แฟคตอรี่ เป็นหุ่นยนต์ที่เขาชอบมาก และก็มีแล้ว เขาไม่เคยดูนะคะว่าเรื่องเนี้ยเรื่องราวเป็นอย่างไร แต่ติดใจรูปลักษณ์ของหุ่น เป็นพลาสติก เวลาจะเล่นต้องประกอบชิ้นส่วนเอง ซึ่งเขาก็สามารถทำได้ โดยเราให้เขาดูแบบคอยบอกว่าเริ่มจากตรงไหนในแบบ 1 คืออะไร ให้เขาหาชิ้นส่วนเองโดยดูจากแบบและประกอบเองตามแบบ แทบจะไม่ช่วยเลย เขาเก่งเลยแหละ  แม่ดาวบางทียังงง แต่เขากลับต่อได้ถูก คือตัวเองไม่ชอบเล่นพวกของที่ต้องใช้สมองมากนักฮ่าๆๆ  

        แต่ตัวที่เขาเห็นที่โลตัสเป็นของเลียนแบบ ประกอบเสร็จมาแล้ว แต่อยากได้เพราะเท่ห์มาก  แม่ดาวก็เข็นผ่านไปแบบไม่ได้สนใจมากนัก เพราะตกลงกันตั้งแต่ก่อนออกเดินทางจากกรุงเทพฯ แล้วว่า ของเล่นที่บ้านยายไม่มี อยากเล่นอะไรให้ลูกจัดการเตรียมไว้ แต่เขาก็บอกว่าไม่เอา เอาแค่นิทานไปไม่กี่เล่ม  เขาบอกว่าอยุ่บ้านยายต้องเล่นขุดดิน  วิ่งเล่น (เล่นอยู่กับธรรมชาติ) เขาก็บอกแบบนี้ เราก็ไม่ได้เอาของเล่นอะไรไปสักชิ้น

        พอเห็นหุ่นยนต์ตัวนี้ โวยวายเลย

ดีโด้          แม่ ครับ มาบ้านยายไม่มีของเล่นเลยสักชิ้น ขอซื้อ 1 ชิ้นได้ไหม
แม่            เราตกลงกันว่าไงครับลูก 

        เดินผ่านไป ดีโด้ก็บ่น ๆ แหละ แต่ก็ยังไม่ถึงขนาดโวยวาย อะไรมากนัก เนื่องจากยายแยกไปซื้อของแล้วก่อนหน้า  เดินมาด้วยกัน 2 คน  ก่อนหน้านี้ก็หลับในรถมาและโดนปลุกให้ตื่นเพื่อลงมาซื้อของด้วยกัน ดังนั้น อารมณ์จึง บ่ จอย เท่าไหร่ นอนไม่พอ อารมณ์ก็ไม่พร้อมไปด้วย มันส่งผลถึงกันอย่างเห็นได้ชัดทุกครั้ง หากร่างกายไม่พร้อม อารมณ์ก็จะไม่พร้อมไปด้วยทุกที 
ขากลับก็ต้องเดินผ่านร้านของเล่นร้านนี้ แต่ ณ ขณะนั้น กลับพร้อมกับคุณยายด้วย  และแล้วก็เป็นอย่างที่คิดไว้ล่วงหน้า นี่ถ้าแม่ดาวทำนายทายหวยได้แม่น แบบนิสัยลูกเนี้ย รวยไปแล้ว อิอิ

ดีโด้          ดีโด้จะเอา ๆๆ  แม่ไม่รักลูก คนรักลูกเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอก แม่ใจร้าย ฯลฯ (สารพัดจะพูด)

ตะโกนเสียงดัง ไม่ได้หวังว่าแม่จะอาย รู้ว่าแม่ไม่อายแน่ ๆ แต่ยายนี่ซิ หึ ๆ กลุ่มเป้าหมายของงานนี้

ยาย          ดีโด้  เป็นอะไรลูก อยากได้อะไรนะ ไหนพูดกับยายซิ พูดดี ๆ โวยวายแบบนี้ยายฟังไม่รู้เรื่อง

ฮั่นแน่ คุณยายแอบเอาคำพูดของแม่ดาวไปใช้ด้วยนะ  แต่ใช้ยังไม่ถูกวิธี 

ดีโด้          (แผดเสียง+ร้องไห้)  ดีโด้อยากได้หุ่นยนต์ฮีโร่แฟคตอรี่สีดำ ตัวนั้น มันเท่ห์มากเลย ดีโด้ชอบมาก ดีโด้ยังไม่เคยมีหุ่นยนต์แบบนี้ ฮือๆๆๆๆๆ ดีโด้อยากได้ ๆๆๆ ยายซื้อให้หน่อยแงๆๆๆ

ยาย          (หันมามองหน้าแม่ แม่ส่ายหน้า)  ตอนยายสมัยเด็ก ๆ นะ ยายไม่มีเงินซื้อของเล่นแบบนี้เลย  แล้วที่บ้านดีโด้ยายเห็นหุ่นพวกนี้เต็มไปหมด เก็บเงินไว้เรียนหนังสือดีกว่าลูก

อารมณ์แบบนี้เขาไม่ฟังหรอกค่ะ กิเลศครอบงำ กำลังกายมีน้อย กำลังสติก็พลอยลดน้อยไปด้วย  ผลก็เลย
               
เชื่อว่าคุณยายพยายามอย่างมาก แต่ไม่สำเร็จ เพราะดีโด้รู้ว่าหากตื้อต่อต้องได้แน่ ๆ แม่ดาวเลยต้องส่งสัญญาณ มามะ แม่ดาวจัดการเอง ด้วยสายตาและท่าทาง คุณยายรับรู้ได้ และถอย อันที่จริงอยากจะบอกคุณยายเหมือนกันว่าให้คุณยายเดินไปก่อน แต่ก็กลัวว่าหากพูดไปแล้ว เดี๋ยวคุณยายน้อยใจอีก คนแก่ยิ่งขี้ใจน้อยอยู่ด้วย หากคุณยายไม่อยู่ตรงนั้น อะไร ๆ จะง่ายกว่าเยอะ

แม่            ดีโด้ครับ แม่เข้าใจว่า หุ่นตัวนี้ลูกอยากได้มาก แม่ก็เห็นว่ามันเท่ห์มากเลยนะครับ  อืม....ได้ครับ แม่จะซื้อให้นะ ตัวนี้เลยหรือเปล่าลูก

ดีโด้          (ได้ยินแบบนี้ สงบลงเห็นได้ชัด) ใช่ครับ ตัวนี้เลย มันเท่ห์มาก 

แม่            ได้ครับได้ ตัวนี้ใช่ไหม วันเกิดลูกนะ แม่จะซื้อให้นะครับ 

ดีโด้          (คงนึกในใจ อีกแล้ว ประโยคนี้อีกแล้ว)  ไม่ เอา ๆๆ ดีโด้จะเอาวันนี้ เดี๋ยวนี้ ซื้อเลย

แม่ยังใจเย็น พูดนิ่ง ๆ อย่างเข้าใจว่า

แม่            ดีโด้ครับ แม่ซื้อให้แน่ ๆ แม่สัญญา  วันเกิดลูก ยังไงซะได้แน่ ๆ รับรอง แม่รักษาสัญญาอยุ่แล้วใช่ไหม

ดีโด้          ใช่ แต่ดีโด้จะเอาวันนี้ตอนนี้ 

แม่            ครับ ได้แน่ ๆ แม่ซื้อให้แค่ไม่ใช่วันนี้ แต่รับรองว่าได้แน่ ๆ  ไปครับลูกจะเดินไปเอง หรือจะนั่งรถเข็น(รถเข็นของโลตัส)ไปขึ้นรถครับ (ตอนนั้นก็ส่งสัญญาณให้ยายเดินไปก่อนได้เลย)

ดีโด้ไม่ยอมเลือก งอน แต่อาการไม่โวยวายเท่าตอนแรกแล้ว  แต่ก็ยังโวยวาย ร้องไห้อยู่

แม่            ดีโด้จะเลือกด้วยตัวเอง หรือดีโด้จะให้แม่เป็นคนเลือกครับ

ดีโด้หากได้ยินประโยคนี้เมื่อไหร่จะชิงเลือกก่อนทันที เพราะเคยโดนมาแล้วที่ไม่เลือก หากครั้งนี้ให้แม่ดาวเลือก นั่นหมายถึงดีโด้ต้องเดินไปที่รถด้วยตัวเองอยู่แล้ว

ดีโด้          นั่งรถเข็นไป  แต่ดีโด้อยากได้หุ่นยนต์

        แม่ดาวก็เข็นไปเลยค่ะ  เขาก็บ่นโวยวายไปตามประสา เด็กที่อ่อนเพลีย ง่วงนอน บวกอาการปวดเท้ากำเริบด้วย คือดีโด้จะมีโรคปวดฝ่าเท้า เป็นโรคประจำตัว หากปวดเมื่อไหร่ หมายถึงแม่ดาวต้องเหนื่อยปรับอารมณ์อีกเยอะ  เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องปกติที่แม่ดาวก็ยอมรับ เรียนรู้ อยู่กับปัจจุบัน ฮ่าๆๆๆ ๆ  ปวดขมับเล็ก ๆ นะคะ แต่ก็ผ่านไปได้   

      พอขึ้นรถก็ยังโวยวาย ๆ อยู่ แม่ดาวยิ่งขับรถเก่ง ๆ อยู่ ต้องบอกกับลูกอีกครั้งอย่างหนักแน่นว่า

แม่            เวลาแม่ขับรถ หากลูกโวยวายแบบนี้ จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายนะครับ ไม่ใช่แค่แม่เจ็บ แต่เจ็บกันทั้งคันรถเลยนะลูก เพราะแม่จะเครียดและไม่มีสมาธิในการขับรถ

ดีโด้          แม่ครับ ขอดีโด้พูดอีกหน่อย พอถึงวันเกิดดีโด้แล้ว แม่ช่วยไปบอกคนที่เขาผลิตหุ่นยนต์ด้วยว่า ให้ผลิตรุ่นนี้มาเยอะ ๆ ดีโด้กลัวมันจะหมด (ฮ่าๆๆ กว่าจะถึงวันเกิดคือ ปีหน้า รู้ว่านานมาก) 

แม่            ได้ครับ แม่จะโทรไปบอกให้นะครับ แต่แม่ไม่รับปากนะว่าเขาจะทำตามที่แม่บอกได้หรือเปล่า หากหุ่นรุ่นนี้ขายดีมาก แม่คิดว่าเขาก็ผลิตเยอะอยู่แล้ว    แต่แม่กลับคิดว่ากว่าจะถึงวันเกิดลูกพวกของเล่นหุ่นยนต์พวกนี้ก็พัฒนาไปแบบที่ลูกคงจะตัดสินใจเลือกลำบากอีกแน่ ๆ  เพราะพวกคนผลิตเขารู้วิธีการล่อหลอก ยั่วกิเลศเด็กเก่ง 

ดีโด้ฟังแล้วก็เงียบไป  ขับรถไปได้สักพัก  ก็ได้ยินเสียงเด็กอารมณ์ดี พูดคนเดียว

ดีโด้          (หัวเราะคนเดียว) กว่าจะถึงวันเกิดดีโด้ ต้องมีหุ่นยนต์ของเล่นเจ๋ง ๆ แน่ ๆ อิอิ ไม่รู้จะเลือกถูกหรือเปล่าว่าจะเอาตัวไหน  (พูดเบา ๆ อยู่หลังเบาะแม่)

แม่            นั่นซิครับ แม่ก็ว่าอย่างงั้นแหละ มันคงจะเยอะมาก จนตัดสินใจลำบากแน่ ๆ

ดีโด้          อ้าว....นี่ขนาดดีโด้คิดในใจนะเนี้ย ทำไมแม่ได้ยิน

ฮ่าๆๆ  นี่เข้าใจอะไรผิดแน่ ๆ คิดในใจ คือไม่มีเสียงพูดออกมา หากพูดออกมาแบบนี้เขาเรียกว่าพูดกับตัวเองเบา ๆ มั้ง 

      กรณีศึกษาอันนี้ ที่ตั้งใจยกตัวอย่างนี้มาก ทั้งที่จริง ๆ ก็มีหลายเหตุการณ์ที่พูดว่า “ได้ครับ แล้วแม่จะซื้อให้ เมื่อ...............”  แค่พูดแค่นี้ ปกติน้องดีโด้เขาก็ไม่ได้ร่ำร้องอะไรต่อ เพราะเป็นที่เข้าใจตรงกัน แต่เหตุการณ์นี้ยากตรงที่เขาไม่พร้อมทางด้านร่างกายยและอารมณ์  ประกอบกับอยู่กับคุณยาย  ยกตัวอย่างยาก ๆ ให้เห็นภาพว่าถึงยังไงก็ยังจัดการได้ ถึงจะทุกลักทุเลพอสมควรก็ตาม   

        สรุปคือ  เราเขาเรียกร้องอยากได้อะไร บางครั้งหากเราพูดว่า “ได้ค่ะ”  ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ  เราก็คิดอยู่แล้ว่ว่า “ไม่ได้”  แต่หากเราพูดปฏิเสธออกไปตรง ๆ เขาก็จะยิ่งโวยวาย  พูดแล้วเราต้องทำได้จริง ๆ นะคะ  แต่เรื่องนี้ที่แม่ดาวสัญญาไว้ แม่ดาวก็จัดให้แน่ ๆ เพราะรักษาสัญญา  วันเกิดเขามีสิทธิ์ที่จะได้ของที่เขาอยากได้เป็นพิเศษ หากเราสามารถให้ได้  เป็นขวัญและกำลังใจ  ของชิ้นนี้แม่ดาวมองแล้วว่ามันมีมูลค่าที่แม่ดาวสามารถให้เขาได้ และไม่ได้แพงจนไม่สมเหตุสมผล  หากถึงวันเกิดเขาอยากจะได้อย่างอื่นแทน แม่ดาวก็ไม่มีปัญหา แต่จะทวงถามก่อนว่า  ลูกเคยบ่นว่าอยากได้หุ่นยุนต์ฮีโร่แฟคเตอรี่นะ  เตือนให้เขาคิดดี ๆ ตัดสินใจอีกครั้ง และบอกเขาว่าเราไม่ลืมสิ่งที่เราสัญญากับเขา  หากเปลี่ยนใจเอาชิ้นอื่นก็ไม่มี
ปัญหา แต่ต้องอยู่ในขอบเขตมูลค่าที่แม่ดาวเห็นว่าเหมาะสมนะคะ

        ขออีกตัวอย่างอีกนิดนะคะ เกี่ยวกับเรื่องพูดว่า  “ได้” ทั้งที่ จริง  ๆ มัน “ไม่ได้”
        เช่น  หากลูกบอกว่าอยากได้รองเท้าคู่ใหม่  ทั้ง ๆ ที่มีเต็มบ้านไปหมดแล้ว และร้องไห้โวยวายจะเอาให้ได้  เราก็บอกลูกไปว่า “ได้ค่ะ คู่นี้พังแล้ว แม่จะซื้อคู่ใหม่ที่สวยถูกใจให้ลูกเลยนะคะ  ให้ลูกไปเลือกด้วยตัวเองเลยนะจะได้สวยถูกใจหนูเนอะ”
ปฏิเสธแบบนุ่มนวลจริงไหม   หากอยากได้มากจริง ๆ เขาก็คงยังต้องโวยวายอยู่ ก็ยืนยืนคำเดิมสั้นลงยิ้ม ๆ  “ได้ค่ะ  ได้ไงค่ะ แม่บอกแล้วว่าแม่ซื้อคู่ใหม่ให้แน่นอน หลังจากที่คู่นี้พังแล้ว” โวยวายอีกคำเดิมค่ะ “เอ.....ลูกเข้าใจผิดหรือเปล่าน้า  แม่บอกว่าซื้อให้นะคะ ไม่ใช่ไม่ซื้อ” ตีมึนไปเรื่อย  แม่ดาวทำแบบนี้ก็บ่อยนะ ได้ผล  

        ****เด็กแต่ละคนมีนิสัยต่างกัน  วิธีเดียวกัน คำพูดเหมือนกัน อาจใช้กับเด็กคนนึงได้ผล กับเด็กอีกคนอาจคนละเรื่อง เราเป็นแม่ เป็นผู้ปกครองใกล้ชิดเด็กที่สุด เลือกเอานะคะ คิดว่าแบบไหนที่น่าจะใช่ที่สุด มันต้องทดลองเรื่องเนี้ย แต่ที่สำคัญอย่าลืมเวลาที่เราพูดเนี้ย อารมณ์เราพร้อมขนาดไหน พร้อมที่จะเย็นนะคะ ไม่ใช่พร้อมที่จะเหวี่ยง  หากโกรธจัดไม่ต้องพูดอะไรดีกว่า  เดินหนีไปจากจุดเกิดเหตุดีที่สุด หากเรายังไม่พร้อมที่จะคิด ไม่พร้อมที่จะพูด  ให้ใจเบา ๆ ใจเย็น ๆ ก่อนค่อยคิดหาหนทางนะคะ
       
          

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น